Large Rainbow Pointer Large Rainbow Pointer

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559


สรุปบทความวิทยาศาสตร์กับการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย
        

   เด็กเป็นนักค้นคว้าเพื่อการเรียนรู้โดยธรรมชาติ  การหยิบจับ  สัมผัส  และการสังเกตเป็นวิธีการเรียนวิทยาศาสตร์  พฤติกรรมการเรียนวิทยาศาสตร์ของเด็ก คล้ายกับการเรียนเหตุผลทางคณิตศาสตร์   เช่น  การจำแนก การเปรียบเทียบ  การหาความสัมพันธ์ของวัตถุ  การเรียนวิทยาศาสตร์และการเรียนคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยจึงพัฒนาควบคู่กัน  แต่การเรียนวิทยาศาสตร์จะเน้นการเรียนทักษะวิทยาศาสตร์และธรรมชาติรอบตัว  ได้แก่  เรื่องพืช  สัตว์  เวลา  ฤดูกาล  น้ำ  และอากาศร่วมด้วย
ถ้าอยากให้เด็กมีโอกาสพัฒนาจินตนาการทางวิทยาศาสตร์จะทำอย่างไร
              เมื่อเด็กช่างซักถาม  อย่าทำท่ารำคาญ  แต่ต้องพยายามตอบคำถามให้ได้มากที่สุดสร้างสภาพแวดล้อมทางวิทยาศาสตร์ให้เกิดขึ้นภายในบ้าน  ห้องเรียน หาหนังสือเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์สำคัญของโลก  การทดลองสนุก ๆ หรือเกร็ดความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาเตรียมไว้เสมอปลูกฝังความคิดทางวิทยาศาสตร์ให้เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น  พาเด็ก ๆ เดินไปตามเส้นทางรอบ ๆ บริเวณโรงเรียน กระตุ้นให้เด็กสังเกตสิ่งรอบตัวแล้วนำมาพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนะ เพราะการได้เห็น  ได้สัมผัสจากของจริง  จะช่วยกระตุ้นความใฝ่รู้ของเด็กได้อีกมาก
วิทยาศาสตร์ให้อะไรกับเด็ก
                        1.  กระบวนการคิดที่เป็นเหตุเป็นผล   เพราะวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องของเหตุผล   พิสูจน์ได้   ไม่มีอะไรเกิดขึ้นลอย ๆ เด็กที่มีความคิดแบบวิทยาศาสตร์จึงมีระบบความคิดเชิงตรรกะที่ดี
                        2.  พัฒนาการทางความคิดมากกว่าความจำ  ไม่มีทฤษฎีใดในโลกที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้  เช่น  ครั้งหนึ่งคนเคยเชื่อว่าโลกแบน  แต่ กาลิเลโอ ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าโลกกลม  ดังนั้นการท่องจำจึงไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับนักวิทยาศาสตร์  หากเป็นการคิดหาเหตุผล  และพิสูจน์ว่าสิ่งที่จำนั้นเป็นความจริงหรือไม่ต่างหาก
                        3.  จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์  คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าวิทยาศาสตร์กับจินตนาการเป็นคนละเรื่องกัน    แต่อย่าลืมว่าทักษะทางวิทยาศาสตร์ในเรื่องของการตั้งสมมุติฐานก็คือจินตนาการแบบหนึ่งไอน์สไตน์เองยังยอมรับว่าทฤษฎีสัมพันธภาพ  E  =  MC2  เขาคิดค้นขึ้นจากห้องแล็บในสมอง
                        4.  ทัศนคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์  เด็ก ๆ อาจคิดอย่างเป็นเหตุผลและเป็นระบบอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน ถ้าเด็กได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์อย่างถูกวิธี  (คือได้คิดวิเคราะห์และลงมือปฏิบัติมากกว่าท่องจำ)  เขาจะมีความสุขและสามารถต่อยอดไปในชั้นสูง ๆ ได้  ซึ่งไม่จำเป็นว่าเด็กทุกคนที่ชอบวิทยาศาสตร์จะต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์เสมอไป  แต่จะดีกว่าไหม  ถ้าเราจะมีครู  นักเขียน  ทนายความ  และนักการเมืองที่มีระบบคิดเป็นเหตุเป็นผลแบบนักวิทยาศาสตร์
ตัวอย่างการนำวิธีการทางวิทยาศาสตร์ มาจัดกิจกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย
            สำรวจโลกใกล้ตัว  สนามหญ้าพาเพลิน  เป็นกิจกรรมใกล้ตัวจนอาจมองข้ามไป  หลายคนคิดว่าสนามหญ้ากว้าง ๆ จะให้เด็กได้รับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างไรกัน

กิจกรรม  ขุมทรัพย์บนพื้นหญ้า
ผิวสัมผัส  :  สิ่งแรกที่เด็กจะได้รับคือการได้สัมผัสกับสิ่งที่เป็นธรรมชาติ  อย่างน้อยก็ผืนดินที่ปกคลุมไปด้วยหญ้าซึ่งแซมด้วยวัชพืชต่าง ๆ ให้มือของเด็กได้สัมผัสดิน ใช้เท้าวิ่งไปบนผืนหญ้าอ่อนนุ่ม  ให้ความรู้สึกต่างกับพื้นยางหรือลานปูนมากเลยทีเดียว  ซึ่งอย่างน้อย ๆ ก็ทำให้เด็กได้คุ้นเคยกับผิวสัมผัสต่าง ๆ แบบกันไป
การสังเกต :  หากเปลี่ยนจากจอทีวีมาเป็นสนามหญ้ากว้างสีเขียวได้ก็จะดีมาก   เพราะนอกจากจะช่วยฝึกสายตาแล้ว  ยังสอนให้เด็กรู้จักหัดสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอีกด้วย 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น